วันที่ 29 มีนาคม 2025 – เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.4 แมกนิจูด ที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา ได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วภูมิภาคอาเซียน แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อหลายพื้นที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และกรุงเทพฯ ซึ่งมีอาคารสูงได้รับผลกระทบอย่างหนัก
แรงสั่นสะเทือนและผลกระทบในไทย
แม้ว่าจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวจะอยู่ในเมียนมา แต่แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ในประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีอาคารสูงหลายแห่งเกิดการสั่นไหวรุนแรง จนกระจกแตกร้าวและโครงสร้างอาคารบางส่วนเสียหาย รายงานเบื้องต้นพบว่า มีอาคารสูงในกรุงเทพฯ อย่างน้อย 5 แห่งได้รับความเสียหายหนัก และต้องอพยพผู้คนออกจากตัวอาคาร
ที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย อาคารเก่าและโครงสร้างพื้นฐานบางส่วนได้รับความเสียหาย ถนนบางสายเกิดรอยแยก และบางหมู่บ้านในพื้นที่สูงพบว่ามีดินถล่มจากแรงสั่นสะเทือน
ทำไมแผ่นดินไหวในเมียนมาถึงส่งผลกระทบถึงไทย?
แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดจากรอยเลื่อน Sagaing ซึ่งเป็นรอยเลื่อนหลักของเมียนมาและถือเป็นรอยเลื่อนที่มีพลังมากที่สุดในภูมิภาค รอยเลื่อนนี้อยู่ใกล้ชายแดนไทย ทำให้เมื่อเกิดการปลดปล่อยพลังงาน แรงสั่นสะเทือนสามารถส่งผลกระทบไกลถึงภาคเหนือและภาคกลางของไทย
อาคารสูงในกรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบเพราะอะไร?
กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนชั้นดินที่อ่อนนุ่ม ทำให้สามารถขยายแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในระยะไกลได้ เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวในเมียนมา คลื่นไหวสะเทือนจึงถูกขยายและทำให้ตึกสูงในกรุงเทพฯ สั่นไหวแรงกว่าปกติ
ความเสียหายและปฏิบัติการช่วยเหลือ
กรุงเทพฯ: อาคารสูงหลายแห่งเกิดรอยแตกร้าวและต้องอพยพคนออกจากอาคาร โดยเฉพาะตึกสูงในเขต อโศก สีลม และสุขุมวิท ซึ่งมีผู้พักอาศัยและทำงานเป็นจำนวนมาก
เชียงใหม่และเชียงราย: เกิดดินถล่มในบางพื้นที่ของอำเภอฝางและแม่สาย ขณะที่บ้านเรือนบางส่วนได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในอาคารและพื้นที่ห่างไกล
ระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐาน: รถไฟฟ้า BTS และ MRT หยุดให้บริการชั่วคราวเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของรางและโครงสร้างสถานี ขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองยังคงเปิดให้บริการตามปกติ แต่มีการตรวจสอบรอยร้าวที่อาคารผู้โดยสาร
ข้อควรระวังและการเตรียมตัวรับมือแผ่นดินไหว
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่า แผ่นดินไหวอาจส่งผลกระทบได้แม้ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยตรง ดังนั้น ประชาชนที่อาศัยอยู่ในอาคารสูงควรเรียนรู้วิธีป้องกันตัวเองและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น:
✅ หาที่หลบภัยที่มั่นคง เช่น ใต้โต๊ะที่แข็งแรง หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้หน้าต่างหรือตู้สูงที่อาจล้มลงมาได้
✅ เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟฉาย วิทยุพกพา อาหารแห้ง และน้ำดื่มเผื่อในกรณีไฟฟ้าดับหรือระบบขนส่งหยุดชะงัก
✅ ทำความเข้าใจเส้นทางอพยพ โดยเฉพาะในอาคารสูง ควรรู้ทางออกฉุกเฉินและจุดรวมพลที่ปลอดภัย
สรุป
แผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยแม้จะไม่ได้ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนหลัก แต่ก็สามารถได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวจากประเทศเพื่อนบ้านได้ การตื่นตัวและเตรียมพร้อมเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงและความสูญเสียในอนาคต
ภาพที่เกี่ยวข้อง
ภาพอาคารสูงในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความเสียหาย
ภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ประสบภัย
ภาพมุมสูงของทีมช่วยเหลือในกรุงเทพฯ